การขับรถผ่านจุดที่มีน้ำท่วมขัง

เมื่อตัวรถเกิดการสูญเสียการควบคุมบนถนนที่มีน้ำขัง ควรลดความเร็วลงด้วยการผ่อนคันเร่งโดยไม่ต้องเหยียบเบรก รอให้ความเร็วลดลงและให้ยางยึดเกาะถนนอีกครั้ง ถ้าหากรถเริ่มลื่นไถล ผู้ขับขี่ควรควบคุมพวงมาลัยไปในทิศทางที่ต้องการให้รถมุ่งไปจนกว่ารถจะกลับคืนสู่สภาวะปกติ ควรเหยียบคันเร่งด้วยน้ำหนักที่คงที่สม่ำเสมอ การควบคุมรถด้วยความนุ่มนวลจึงนับเป็นปัจจัยสำคัญควรหลีกเลี่ยงการขับรถผ่านถนนที่ไม่สามารถมองเห็นหรือเดินผ่านได้ หรือถนนที่มีน้ำท่วมขังสูงกว่ากึ่งกลางของล้อรถ รถเอสยูวีและรถกระบะขนาดใหญ่สามารถแล่นผ่านถนนที่มีน้ำท่วมสูงกว่ารถยนต์นั่งได้ แต่ควรตรวจสอบว่ารถของคุณสามารถขับขี่ผ่านระดับน้ำได้สูงเท่าใด

น้ำท่วมขังจะบังสิ่งกีดขวางที่อยู่บนถนน ผู้ขับขี่ไม่สามารถมองเห็น ดังนั้น ถ้าคุณต้องขับขี่ ผ่านถนนที่มีน้ำท่วมขังขอให้แน่ใจว่าคุณขับอยู่บนถนนและถนนไม่มีความเสียหายใดๆ ขณะเดียวกันควรเพิ่มความระมัดระวังเมื่อขับขี่บนถนนที่ไม่คุ้นเคยเนื่องจากอาจมีหลุมที่ลึกเกินกว่าที่รถจะผ่านไปได้

หากขับรถผ่านถนนที่มีน้ำท่วมขัง ควรขับรถบนกึ่งกลางหรือใกล้กับกึ่งกลางของถนน เนื่องจากระดับน้ำจะต่ำที่สุด ใช้เกียร์ต่ำและรอบเครื่องยนต์สูง ใช้เกียร์หนึ่งหรือเกียร์ “L” ขึ้นอยู่กับประเภทของเกียร์ ควรรักษาความเร็วให้คงที่ ไม่ควรถอนคันเร่งเนื่องจากเครื่องยนต์ที่ลดความเร็วจะทำให้น้ำไหลเข้าสู่ท่อไอเสียและสร้างความเสียหายต่อแคตทาไลติก คอนเวอร์เตอร์

นอกจากนี้ควรขับรถด้วยความเร็วต่ำมาก เพื่อไม่ให้ที่กรองอากาศด้านหน้ารถดูดน้ำเข้าไปในเครื่องยนต์ ถ้าน้ำไหลเข้าสู่ท่อไอเสียหรือเครื่องยนต์จะส่งผลเสียรุนแรงและมีค่าซ่อมแซมสูง

ควรเว้นระยะห่างจากรถคันหน้าพอสมควรหรือขับรถผ่านน้ำท่วมขังทีละคันเพื่อป้องกันการหยุดรถกลางถนนถ้ารถคันหน้าชะลอความเร็ว ควรระมัดระวังว่าไม่มีรถที่ขับมาจากเส้นทางอื่น เนื่องจากคลื่นของน้ำอาจท่วมรถได้ โดยเฉพาะถ้ารถคันอื่นใช้ความเร็วสูงเกินไป

เมื่อขับรถผ่านถนนที่มีน้ำท่วมขัง ควรย้ำเบรกอย่างนุ่มนวลเป็นระยะ หากผู้ขับขี่มีทักษะสามารถใช้เท้าซ้ายเหยียบเบรกได้ เมื่อรู้สึกว่าเบรกจับตัวแล้วให้กลับมาขับขี่ตามปกติ ควรจอดรถเพื่อตรวจสอบให้แน่ใจว่าไม่มีขยะ เช่น ถุงพลาสติกหรือเศษสิ่งของอื่นๆ ติดอยู่ที่กระจังหน้าหรือหม้อน้ำ

ขอให้ตระหนักว่าน้ำท่วมขังที่สูง 15 ซม. จะถึงระดับใต้ท้องรถยนต์นั่งบางคัน ขณะที่รถยนต์นั่งส่วนใหญ่จะเริ่มลอยตัวในระดับน้ำ 30 ซม. ส่วนระดับน้ำ 60 ซม. จะทำให้รถส่วนใหญ่ รวมถึงเอสยูวีลอยตามน้ำไปได้โดยไม่เกี่ยวกับความเร็วของกระแสน้ำแต่อยู่ที่กำลังและปริมาตร จึงไม่ควรเสี่ยงขับรถผ่านระดับน้ำที่สูงมากดังกล่าว

หลีกเลี่ยงการเบรกหรือหักเลี้ยวพวงมาลัยกะทันหันเพราะอาจทำให้รถเสียการทรงตัว ควรเบรกก่อนเข้าโค้งและเหยียบคันเร่งออกจากโค้งอย่างนุ่มนวล